พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2564( 27 กันยายน พ.ศ.2564)
วันที่ 24 กันยายน 2564 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี จัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2564 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดีวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี คณบดี ผู้อำนวยการ บุคลากร และหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะฯ ณ ลานพระราชานุสาวรีย์ฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เนื่องในโอกาส “วันมหิดล” วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี
ด้วยพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุขของประเทศเป็นอเนกนานัปการ อันเป็นรากฐานในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ ตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยะประเทศในกาลต่อมา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงได้ขนานนามวันอันเป็นที่ระลึกสำคัญนี้ว่า “วันมหิดล” เพื่อเป็นการถวายสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกพระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ให้เป็น “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย“
นอกจากนี้ มีพิธีมอบเกียรติบัตรและรางวัลบุคลากรผู้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง มอบเกียรติบัตรและรางวัลเพื่อแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นบุคลากรดีเด่นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปี 2564 และการมอบน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ให้ส่วนรายการที่เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานียังจัดกิจกรรมอื่นๆ เนื่องในวันประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ได้แก่ กิจกรรมบริจาคน้ำยาฆ่าเชื้อแบบ Drive Thru ให้แก่หน่วยงานภายนอก ชุมชนโดยรอบวิทยาเขต กิจกรรมบริจาคโลหิต กิจกรรมประโยชน์เพื่อนมนุษย์ยุคโควิด (กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ของนักศึกษา) และกิจกรรมจิตอาสาสู้ภัยโควิด (กิจกรรมจิตอาสาของบุคลากร เพื่อร่วมปลูกฟ้าทะลายโจร และหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทือง)